ผลไม้ต้องห้าม วันตรุษจีน มีจริงหรือไม่ เพราะอะไร คำตอบก็คือ มีจริง แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ผลไม้ต้องห้าม” ในบริบทของตรุษจีนนั้น ไม่ได้หมายถึงผลไม้ที่มีพิษหรือกินไม่ได้ แต่หมายถึงผลไม้ที่ไม่นิยมนำมาไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ หรือใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากความเชื่อทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้เหล่านั้น

เหตุผลที่ไม่นิยมผลไม้บางชนิดในวันตรุษจีน
- สีสัน สีดำและสีขาวเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับการไว้ทุกข์ในวัฒนธรรมจีน ดังนั้นผลไม้ที่มีสีดำคล้ำ เช่น องุ่นดำ เชอร์รี่ดำ หรือผลไม้ที่มีสีขาว จึงไม่นิยมนำมาไหว้ในวันตรุษจีน
- ความหมาย ผลไม้บางชนิดมีความหมายที่ไม่เป็นมงคลในภาษาจีนหรือภาษาท้องถิ่น เช่น ผลไม้ที่ยังดิบอยู่ สื่อถึงความไม่สมบูรณ์ หรือผลไม้บางชนิดที่มีชื่อพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายไม่ดี
- ความเชื่อท้องถิ่น ในบางท้องถิ่นอาจมีความเชื่อเฉพาะเกี่ยวกับผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรนำมาไหว้
ตัวอย่างผลไม้ที่ไม่นิยมนำมาไหว้ในวันตรุษจีน (โดยทั่วไป)
- ผลไม้สีดำ/คล้ำ เช่น องุ่นดำ เชอร์รี่ดำ ลูกพลับดำ เพราะสีดำสื่อถึงความโชคร้าย การไว้ทุกข์
- ผลไม้สีขาว เช่น สาลี่ (ในบางบริบท) เพราะสีขาวสื่อถึงความโศกเศร้า การไว้ทุกข์ (แต่สาลี่สีทองถือว่าเป็นมงคล สื่อถึงโชคลาภ)
- ผลไม้ดิบ ผลไม้ที่ยังไม่สุก เช่น กล้วยดิบ องุ่นเขียว ฝรั่งดิบ เพราะสื่อถึงความไม่สมบูรณ์ ความไม่เจริญเติบโต
- ผลไม้ที่มีหนามแหลม เช่น ทุเรียน (ในบางความเชื่อ) เพราะหนามอาจสื่อถึงอุปสรรคหรือปัญหา

สิ่งที่ควรทำ
- เลือกผลไม้สีสันสดใส ควรเลือกผลไม้ที่มีสีแดง สีทอง สีส้ม หรือสีชมพู ซึ่งเป็นสีมงคลในวัฒนธรรมจีน สื่อถึงความโชคดี ความร่ำรวย และความสุข เช่น ส้ม แอปเปิลแดง องุ่นแดง สับปะรด
- เลือกผลไม้ที่มีความหมายดี เช่น กล้วย (กวักโชคลาภ) องุ่น (ความเจริญงอกงาม) สับปะรด (ความโชคดีมาหา)
- สอบถามผู้รู้หรือคนในครอบครัว หากไม่แน่ใจว่าผลไม้ชนิดใดควรหรือไม่ควรนำมาไหว้ ควรสอบถามผู้ใหญ่ในครอบครัวหรือผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับประเพณีตรุษจีน
สรุป
การหลีกเลี่ยงผลไม้บางชนิดในวันตรุษจีนเป็นเรื่องของความเชื่อและประเพณีที่สืบทอดกันมา สิ่งสำคัญคือการแสดงความเคารพต่อประเพณีและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ความเชื่อเกี่ยวกับผลไม้ต้องห้ามอาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นและแต่ละครอบครัว ควรใช้วิจารณญาณและยึดถือตามประเพณีของครอบครัวเป็นหลัก