อัปเดตกรณีเงิน 10,000 บาท “ดิจิทัลวอลเล็ต” ล่าสุดหลังรัฐบาลกดปุ่มโอนเงิน 10,000 เฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 ปรากฏว่ายังมีผู้สูงอายุ ตกหล่นโอนไม่สำเร็จกว่า 200,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ายังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์และสถานะบัญชีมีปัญหา
ดังนั้นหากผู้สูงอายุคนไหน ยังไม่ได้รับเงิน และพบว่าอยู่ในกลุ่มตกหล่น แนะนำให้รีบดำเนินการผูกพร้อมเพย์ให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมรับเงินโอนซ้ำ ซึ่งจะโอนให้อีก 3 ครั้ง คือ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 28 มีนาคม และ 28 เมษายน 2568
ทั้งนี้ หลังจากมีการโอนเงิน 10,000 บาทเฟส 2 ให้กลุ่มผู้มีสิทธิดังข้างต้น ปรากฏว่ายังมีผู้สูงอายุหลายคน โอดไม่ได้เงิน 10,000 บาท เพราะลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ได้ลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ ตั้งแต่แรก ดังนั้นจะสามารถไปลงทะเบียนรอบพิเศษ กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟนมีโอกาสได้รับเงินหรือไม่
ล่าสุด เรื่องนี้กระทรวงการคลังชี้แจงมาแล้ว โดยระบุ กลุ่มลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐไม่สำเร็จ รวมถึง กลุ่มคนทั่วไปที่ยังไม่เคยลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ มาก่อน และไม่ได้จัดเป็นกลุ่มเปราะบางผู้ไม่มีสมาร์ตโฟน จะถือว่าหมดสิทธิรับเงิน 10,000 บาท
ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หมดสิทธิรับเงิน 10,000 บาท
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย กลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กรณีที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือ ไม่ได้กดยืนยันรับสิทธิ จะถือว่าเป็นผู้ที่ลงทะเบียนไม่ครบตามขั้นตอน จึงไม่ได้รับสิทธิ รวมถึงจะไม่สามารถไปลงทะเบียนใน กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน ได้ เพราะถือว่า ไม่ได้ลงทะเบียนครบตามกระบวนการ จะถือว่าเสียสิทธิ เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันทางรัฐตั้งแต่ต้น
กำหนดหลักเกณฑ์ คัดแยกกลุ่มมีสมาร์ตโฟน กับ กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน
ส่วนการตรวจสอบกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟนกับไม่มีสมาร์ตโฟน หลังจากนี้จะมีประกาศขั้นตอนว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 1 เดือน รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมยืนยันว่ากลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนจะได้รับเงิน 10,000 บาทอย่างแน่นอน แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องได้พร้อมกับกลุ่มเฟสที่ 3
นายเผ่าภูมิ บอกว่า สำหรับเฟส 3 หากเป็นผู้โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐ แต่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือไม่ครบตามขั้นตอน ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งเฟสที่ 3 จะยึดตามหลักเกณฑ์เดิม คือต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และต้องมีเงื่อนไขเรื่องรายได้ตามที่กำหนดไว้ โดยจะมีการตรวจสอบจากธนาคารต่าง ๆ และกรมสรรพากร ส่วนคนที่ลงทะเบียนไม่ผ่านสามารถยื่นเรื่องอุทธรณ์ฝากเรื่องไว้ที่สายด่วน 1111
